my name (2021)

my name (2021)

my name (2021) รีวิวซีรีส์ My Name สำเร็จการงานพลิกหน้าที่แบบสุดขั้วของ ‘ฮันโซฮี’ ดาราสาวดาวรุ่งที่กำลังเป็นด้ามจับตามองเป็นอย่างมากตั้งแต่แจ้งเกิดในบทบาท ยอดาคยอง จาก The World Of The Married (JTBC,2020) ที่ตีบทแตกกระจุยจนถึง ถูกเสนอชื่อเข้าชิงสาขาดาราสมทบหญิงดีที่สุด บนเวที Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 และได้รับกระแสตอบรับอย่างต่อเนื่องผ่านการแสดงล่าสุด ในหน้าที่ ยูนาบี จากเรื่อง Nevertheless (JTBC,2021) ที่ฮอตฮิตติดลมบนแบบผลักไม่อยู่

ในซีรีส์ใหม่แกะกล่องจาก Netflix อย่าง My Name2021 ประเด็นนี้ เป็น ซีรีส์แนวทวงแค้น บู๊ระห่ำ ไล่ฆ่าไล่แทงกันฉึบฉับ ที่ฮันโซฮี รับบทเป็น ‘ยุยงนจีอู’ หญิงสาวที่เข้ามาเป็นสมาชิกแก๊งยาเสพติดรายใหญ่เพื่อตามหาผู้ที่ฆ่าบิดาของเธอ ซึ่งเพียงแค่มองแนวซีรีส์ก็มองเห็นแล้วว่าไม่เหมือนกับบทที่คุณเคยรับมาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ผู้คนจำนวนมากจึงตั้งหน้าตั้งตารอคอยเป็นพิเศษว่าบทบาทใหม่ของคุณจะคืออะไร เมื่อดูจบ 8 ตอนรวดแบบไม่พักแล้ว ก็รู้สึกชื่นชอบในการแสดงอันเหนือชั้นจนถึงอยากจะลุกขึ้นยืนปรบมือให้ดังไปถึงกรุงโซลเลยทีเดียว ซีรีส์จำนวน 8 ตอน กับเวลาเกือบ 10 ชั่วโมง โซฮีทำให้เราเชื่อว่าเธอเป็น ‘ยุยงนจีอู’ ตั้งแต่วินาทีแรกที่ซีรีส์เริ่ม จนวินาทีในที่สุดที่ซีรีส์ลาจอ

My Name (2021) ผลงานออริจินัลซีรีส์เรื่องใหม่จาก Netflix ซึ่งเป็นแนวแอ็กชัน-ดราม่า-อาชญากรรม นำแสดงโดย ฮันโซฮี, พัคฮีซุน รวมทั้งอันโบฮยอน บอกเล่าเรื่องราวชีวิตที่เปลี่ยนของ ยุนจีอู เด็กสาวที่ยอมแลกเปลี่ยนทั้งหมดทุกอย่างเพื่อล้างแค้นให้บิดาของตัวเองรีวิวซีรีส์ My Name (Netflix) ฮันโซฮี – พัคฮีซุน – อันโบฮยอน

เรื่องย่อ : ยุยงนจีอู (รับบทโดย ฮันโซฮี) จะต้องเผชิญชีวิตที่กลับภายหลังสูญเสียผู้เป็นพ่อ

ไปอย่างกะทันหันในวันเกิดของคุณ เพื่อตามหาตัวผู้ร้ายทำให้คุณยอมเป็นเลิศในสมาชิกของแก๊งป่าดงชอน แล้วก็แอบเข้าไปเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพื่อเป็นสายให้กับหัวหน้ากลุ่มอย่าง ชเวมูจิน (เล่นบทโดย พัคฮีซุน) ที่คอยให้การช่วยเหลือคุณอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ว่ายิ่งแสวงหาเรื่องจริงมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้จีอูงงงวยว่าคนใดที่คุณควรวางใจอย่างแท้จริง

เรื่องราว/เรื่องย่อเรื่องราวของ ยุยงนจีอู เด็กผู้หญิงชั้นมัธยมจะต้องทนทุกข์จากการถูกสังคมรังควาน ถูกสหายบูลลี่ แล้วก็ออกจากสถานที่เรียน แถมยังมีตำรวจรอตามติดชนิดที่เกือบจะเป็นเงาตามตัวอย่างยิ่งจริงๆ เนื่องมาจาก ยุนดงอุน พ่อของคุณถูกหมายจับในข้อกล่าวหาคดีที่เกี่ยวกับสิ่งเสพติด

จนตราบเท่าในวันเกิดครบรอบอายุ 17 ปีของคุณ เธอได้รับโทรศัพท์จาก ยุนป่าอุน เธอก็เลยได้ระเบิดอารมณ์ความรู้สึกที่คุณแบกรับเอาไว้ออกไป และบอกว่าต่อไปจะไม่ขอเจอกับเขาอีก

หลังวางสาย ยุนป่าอุน จึงตกลงใจที่จะแอบมาเจอกับ ยุนจีอู โดยทันที เพื่อจะขออภัยรวมทั้งอวยพรวันเกิดเธอ แม้กระนั้นแล้วไม่ทันที่พวกเขาจะได้พบกัน ยุยงนดงอุน กลับถูกชายลึกลับฆ่าตายอยู่หน้าประตูห้องของ ยุนจีอู รวมทั้งท้ายที่สุดเขาก็ได้ตายต่อหน้าในวันเกิดครบรอบอายุ 17 ปีของคุณ

ด้วยความรู้สึกตัวว่าตัวเองผิดและความบ้าคลั่งแค้นที่อยู่ในใจของเธอ เธอก็เลยพยายามที่จะตามหาตัวคนร้ายเพื่อตามทวงแค้นให้ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะต้องเสี่ยงอันตรายแค่ไหนก็ตาม กระทั่งเธอได้พบกับ ชเวมูจิน หัวหน้ากลุ่มดงชอน แก๊งค้าสารเสพติดรายใหญ่ ที่เป็นราวกับเพื่อนรักประเภทที่ตายแทนกันได้ของ ยุยงนป่าอู

ชเวมูจิน จึงตัดสินใจพาเธอไปฝึกซ้อมตัวที่โรงฝีกของกลุ่มดงชอน และท้ายที่สุดก็รับเธอเข้ามาเป็น 1 ในสมาชิกของแก๊ง ซึ่งเธอเป็นเพียงเพศหญิงคนเดียวที่อยู่ในโรงฝึกหัดที่นั้นหลายปีผ่านปี คุณได้รับร่องรอยว่าคนร้ายที่ฆ่าบิดาของเธอน่าจะเป็นตำรวจ คุณจึงฝึกหัดตนเองอย่างหนักเพื่อสมัครเข้าไปเป็นตำรวจ

และก็ท้ายที่สุดเธอก็สามารถที่จะสอบเข้าไปเป็นตำรวจจนได้ โดยเธอได้เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น โอฮเยจิน เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ แล้วก็เริ่มเดินหน้าสอบสวนตามหาตัวคนที่ลงมือฆ่าพ่อของเธอทันที

ยุนจีอู (เล่นบทโดย ฮันโซฮี) เด็กผู้หญิงที่จะต้องทนทุกข์ทรมานจากการเช็ดกสังคมรังควาน ถูกสหายบูลลี่ รวมทั้งออกจากสถานที่เรียน ตำรวจตามติดเกือบจะเป็นเงา ชีวิตเกือบจะพังทลายเพราะว่าบิดาของเธอเป็นขาใหญ่ในกลุ่มยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่างกลุ่มป่าดงชอน แต่ในวันเกิดอายุครบ 17 ปีของคุณ สายโทรศัพท์จากบิดาก็ดังขึ้น สิ่งที่เธอบอกกับพ่อเป็นสิ่งแรก คือ การปะทุความรู้สึกทั้งสิ้นที่คุณจำเป็นต้องแบกรับรวมทั้งเผชิญมัน เธอไม่ต้องการที่จะอยากจะคอยพ่ออีกต่อไปแล้ว หลังจากนี้คุณจะมีความรู้สึกว่าพ่อของเธอได้ตายจากไปอย่างไม่มีทางกลับ ภายหลังจากพูดจบบิดาของเธอที่ได้กลับไปย้อนอ่านเนื้อความเก่าๆที่คุณส่งมาก็ตัดสินใจที่จะไปหาคุณในทันที

ฮันโซฮี สวมบทเป็น ยุนจีอู / โอฮเยจิน ตำรวจสาวขาลุยแผนกอาชญากรรมที่ไม่มีผู้ใดขวางเธอได้ โดยคุณอุตสาหะย้ายไปอยู่แผนกกำจัดสิ่งเสพติดเพื่อสืบประเด็นการการฆ่าของบิดา รวมทั้งเป็นสายข่าวสารให้กับชเวมูจิน คุณเป็นคนพูดน้อยต่อยหนักและไม่ค่อยเข้าสังคม รีวิวซีรีส์ My Name (2021) Netflix พัคฮีซุน

แม้กระนั้นไม่ทันไร พ่อของเธอก็ถูกบุคคลปัญหาจ่อยิงอยู่ที่หน้าประตูซึ่งๆหน้าคุณที่จ้องมองผ่านตาแมวเสียแล้ว การถึงแก่กรรมของพ่อก่อไฟแค้นในตัวของจีอูให้ลุกโหม เธอจำต้องทราบให้ได้ว่าผู้ใดกันแน่ที่เป็นคนฆ่าพ่อของคุณไม่ว่าควรต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยอะไรก็ตาม จีอูจึงตกลงใจเข้าพบ ชเวมูจิน (เล่นบทโดย พัคฮีซุน) หัวหน้ากลุ่มป่าดงชอน คู่หูของพ่อผู้ที่คงจะทำให้เธอใกล้กับฆาตกรที่ฆ่าบิดาได้มากกว่าเดิม

จีอูเฝ้าฝึกซ้อมตัวเองอย่างหนักเพื่อพร้อมต่อการแก้แค้นที่รอคอยเธออยู่ และแฝงตัวเข้าไปเป็นหนอนในหน่วยสืบสาวยาเสพติดในชื่อโอฮเยจิน แล้วก็ที่นั่นทำให้จีอูพบกับ จอนพิลโด (เล่นบท อันโบฮยอน) ตำรวจสายสืบในหน่วยที่เป็นคู่หูของเธอ และที่นี้ทำให้เธอเริ่มใกล้ความจริงที่เธอตามล่ามาชั่วชีวิตขึ้นเรื่อย

พัคฮีซุน สวมบทบาทเป็น ชเวมูจิน ประธานรีสอร์ทลิเบอร์ที่เบื้องหลังของเขาเป็นหัวหน้าแก๊งป่าชอน องค์กรสิ่งเสพติดรายใหญ่ หลังจากช่วยชีวิตจีอูไว้ เขาก็ได้ก่อร่างสร้างตัวตนใหม่ให้เธอและก็ส่งคุณเข้าไปเป็นตำรวจ เขาเป็นหัวหน้าแก๊งที่มีความน่ายำเกรง น่าสยองรวมทั้งเหี้ยมโหด

My Name เกิดเรื่องราวของ ‘ยุยงนจีอู’ (ฮันโซฮี) นักเรียนมัธยมคนหนึ่งที่มีบิดาเป็นนักเลงค้ายา บิดาของจีอูถูกฆ่าตายที่หน้าห้องของพวกเขา ทำให้จีอูกำหนดเป้าหมายที่จะแก้เผ็ดแทนบิดาของเธอให้ได้ เธอเข้าไปฝึกฝนการต่อสู้ในกลุ่มที่พ่อเธอเคยอยู่ โดยมี ‘ชเวมูจิน’ (พัคฮีซุน) หัวหน้าใหญ่คอยสนับสนุน จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาจีอูก็แฝงตัวเข้าไปเป็นตำรวจในนาม ‘โอฮเยจิน’ เพื่อตามหาตำรวจที่ฆ่าพ่อของเธอ แต่ว่าเธอกลับได้พบกับความเป็นจริงที่เธอไม่เคยคาดการณ์มาก่อน

แม้ว่าพล็อตจะมิได้มีอะไรแปลกใหม่หรือคาดเดาได้ยากนัก

แต่ว่า My Name ก็ยังเดินเรื่องได้เชิญชวนติดตามด้วยการแสดงที่แข็งแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮันโซฮีที่ได้แสดงฝีมือสุดกำลังในฉากดราม่าหนักๆรวมทั้งพัคฮีซุนที่มีเสน่ห์ร้ายมากในบทชเวมูจิน สิ่งที่น่าชมเชยเป็นพิเศษเป็นเคมีการแสดงของทั้งสองผู้ที่ทำให้มองเห็นความสัมพันธ์และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละครทั้งคู่ได้เข้มข้น กระทั่งทำให้ตัว จอนพิลโด ที่รับบทบาทโดยอันโบฮยอนมองจืดชืดไปชัดเจน ถึงเขาจะแสดงได้ดีไม่มีอะไรบกพร่องก็ตาม

บอกเลยว่า ชอบมากมาย!!! เป็นการดู 8 ตอนรวดจบที่แทบจะไม่ได้อยากต้องการกดหยุดไปเข้าห้องน้ำเลยด้วย ตกหลุมรักฮันโซฮีตั้งแต่เปิดเรื่องมาเพียงแต่ 10 นาทีแรก คุณทำให้เราเชื่อได้ในทันทีทันใดว่าเธอคือยุนจีอูเด็กสาวที่แตกสลายและก็พังทลายจริงๆความบอบช้ำ ความซึมเศร้า สายตาอันว่างเปล่า เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวด ถูกคุณแสดงออกมาผ่านสายตาแล้วก็ลีลาจนหมดแม้กระทั้งออร่าบริเวณของเธอก็ยังทำให้เรารู้สึกเศร้าหมองตามเธอไปได้เลยเลย

สิ้นปีนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ควรจะมีชื่อของโซฮีเข้าชิงในสาขานำหญิงดีอย่างไม่ต้องสงสัย ความอุตสาหะของเธอที่ทุ่มให้กับซีรีส์ประเด็นนี้ผู้ชมอย่างเราเห็นถึงมันและรับรู้ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะการทุ่มเทฝึกหัดศิลปะการต่อสู้ถึง3เดือน เพิ่มน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัมเพื่อตนเองเข้าถึงบทบาทยุยงนจีอูให้ได้มากที่สุด my name (2021) แล้วก็เกือบจะเล่นฉากบู๊ในซีรีส์เองทั้งผองจนจะต้องเข้าโรงหมอ ฉากบู๊ของโซฮีไม่มีอะไรขัดข้องเลยแม้กระทั้งซีนเดียว

อารมณ์ที่พุ่งผ่านบริเวณใบหน้า โฟลว์การบู๊ ท่าทางการต่อสู้ ทุกทีท่าสามารถแสดงออกมาได้อย่างไร้ที่ตำหนิ ความเหี้ยมโหดอำมหิตสำหรับการออกอาวุธ และการบู๊ของเธอก็ไต่ระดับตามความแค้นในตัวของคุณด้วย รวมทั้งแม้ประเด็นนี้แทบไม่มีซีนให้คุณมีบริเวณใบหน้าที่เรียบเนียน มีตัวธรรมดาที่ไม่ต้องมีรอยฟัน รอยแทง รอยแผลเป็นเข้ามา

ความรู้สึกหลังดูจบ เอาตรงๆ นะฮะ ถ้าถามว่าสนุกมั้ย ก็สนุกแหละฮะ แต่ตลอดเวลาที่ดู ให้ความรู้สึกเหมือนกับดูซีรีส์หรือหนังฮ่องกงแนวตำรวจกับแก๊งมาเฟียช่วงยุค 90 ยังไงยังงั้นเลย ทั้งการตามล่าล้างแค้น การแฝงตัวทำภารกิจ รวมถึงการออกแบบคิวบู๊ตลอดทั้งซีซั่น ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการซัดกันด้วยหมัด ด้วยมีดกันซะเป็นส่วนใหญ่
ซีรีส์เรื่องนี้ติดเรท 18+ แน่นอนฮะ มีภาพความรุนแรงตลอดทั้งเรื่อง

ซึ่งทำออกมาได้ดีสมจริงมากฮะ ฉากบู๊โคตรเดือดเลย โดยเฉพาะฉากที่โรงฝึกของแก๊งดงชอนถูกบุกเนี้ย แต่พลอตโดยรวมไม่มีอะไรแปลกใหม่ฮะ เดาทางได้ง่าย
และโดยส่วนตัว ก็ไม่ได้ติดที่ความเก่งสุดติ่งของตัวละคร “ยุนจีอู” นะฮะ อันนี้เข้าใจได้ว่าฝึกฝนมาอย่างหนัก บวกกับทักษะการต่อสู้ที่ดี จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่จะสามารถต่อสู้เอาชนะผู้ชายตัวใหญ่ๆ หลายๆ คนได้ แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกติดในใจว่า “เวอร์” เกินไปหน่อยก็คือ ”ความอึด” ของเธอ ที่โดนอัดขนาดไหนก็ยังไม่ล้ม แถมยังกลับมาฮึดเอาชนะได้อีก อันนี้เลยรู้สึกว่า “เกินไป” หน่อย

เริ่มเรื่องมาก็ดราม่าชีวิตนางเอกเลย เพราะพ่อของเธอเป็นนักเลงมีหมายจับอยู่ ทำให้มีตำรวจคอยตามประกบเธอจนต้องลาออกจากโรงเรียน หลังเสียพ่อไปต่อหน้าต่อตา จีอูก็เอาแต่โทษตัวเองและพยายามทำทุกอย่างเพื่อตามหาตัวฆาตกรให้ได้ ด้วยความที่ตัวคนเดียวเลยทำให้เธอเกือบจะจบชีวิตลงเพราะโดนหลอก แต่ก็ได้หัวหน้าแก๊งดงชอนอย่างชเวมูจินช่วยไว้ได้ทัน เขาพาเธอไปอยู่ในองค์กร

ทำให้เธอได้รับบทเรียนที่สร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเองรีวิวซีรีส์ My Name (2021) Netflix พัคฮีซุนเวลาผ่านไปจีอูได้เป็นตำรวจอย่างเต็มตัวและแอบสืบคดีของพ่อไปด้วย รวมถึงเป็นสายข่าวให้กับมูจินจนเขาไว้ใจเธอมาก ระหว่างนั้นเธอได้ทำงานร่วมทีมกับคู่หูคนใหม่อย่างจอนพิลโดที่ไม่ค่อยชอบหน้าเธอนัก แต่พอรู้จักกันมากขึ้นทั้งคู่ก็เป็นคู่หูที่เข้ากันได้ดี การตามสืบเบาะแสต่าง ๆ ทำให้นางเอกเริ่มไม่แน่ใจว่าควรเชื่อใจฝ่ายไหนดี ระหว่างตำรวจกับแก๊งดงชอน เธอจะตามหาตัวฆาตกรได้สำเร็จหรือไม่ แล้วจะปกปิดตัวตนได้อีกนานแค่ไหน ไปตามลุ้นด้วยกันนะ

นอกจากบทที่ถูกวางไว้อย่างดีแล้วอาวุธที่ซีรีส์หยิบมาใช้ มุมกล้องและงานภาพก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ระทึกขึ้นไปอีก เพราะบางช่วงบางตอนเราจะเห็นซีรีส์ใช้มุมกล้องแบบมุมมองบุคคลที่ 1 กับฉากบู๊ซึ่งสถานที่ที่เลือกมันก็ช่างลงตัวกับการเลือกมุมกล้องซะเหลือเกินเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนเราได้หลุดเข้าไปในเดินเองในซีรีส์เลย มันเพิ่มอถรรสและความสมจริงได้มากขึ้นแบบสุดๆ

และอาวุธที่ตัวละครในเรื่องนี้เลือกใช้กันเยอะมากที่สุดอย่าง มีด ก็ถือเป็นการเลือกมาใช้ที่ฉลาดมากกก เพราะนอกจากจะโชว์ทักษะการต่อสู้ของนักแสดงให้เราว้าวกร๊ดกันแล้ว มันยังเพิ่มความเสียวสันหลัง ความเลือดสาด ความโหด ความลุ้น และความเลือดเย็นสมกับการเป็นแก๊งค้ายาซะจริงๆ และในตอนนี้ My Name ก็ได้กลายมาเป็นซีรีส์ที่ขึ้นหิ้งอีกเรื่องของปีนี้ไปแล้วเรียบร้อยแบบไม่ต้องมีข้อกังขาใด ๆ

หนังตลกๆ

 win666.club

wrockette