Red Kale ปลูกง่ายมาก เหมือนคะน้า เป็นพืชกลุ่มเดียวกัน

Red Kale

Red Kale เป็นสายพันธุ์ที่น่าดึงดูดผลิตใบสีม่วงเข้มที่บางทีอาจประดับประดาสวนของคุณหากแม้ในช่วงฤดูหนาว “Sympatic” เป็นของสายพันธุ์กึ่งกลางปลาย โรงงานที่นี้ปรับปรุงลำต้นที่แข็งแรงและก็มีใบหนาแน่นซึ่งบางทีอาจสูง 60 – 70 เซนติเมตร ใบฟริซเซิลมีสีแดงสดแล้วก็ม่วงเข้มอะไรที่ทำให้ท่านสามารถใช้คะน้านี้เป็นไม้ประดับ ใบเป็นทรัพย์สมบัติของโปรตีนมีวิตามินเยอะมากกรดโฟลิกรวมทั้งอื่นๆเป็นธาตุ ผักคะน้าบางทีอาจบริโภคดิบในสลัดปรุงสุกหรือคั่วนอกจากไปจากของกินมังสวิรัติรวมทั้งเนื้อสัตว์ซุปแล้วก็ Casseroles บางทีอาจเก็บเกี่ยวได้ในช่วงฤดูหนาวภายหลังทิ้งเอาไว้ในทุ่ง ผักคะน้าแช่แข็งจะไม่สูญเสียสินทรัพย์ใดๆก็ตามแต่ว่าจะอร่อยกว่าอร่อยในรสแล้วก็ไม่มีรสขม

เริ่มกันที่ผักเคลใบหยิกทั่วๆไป ผักเคลจำพวกนี้มีลักษณะใบที่ใหญ่ มีขอบหยัก ลำต้นยาว สีของใบมีตั้งแต่ว่าเขียวเข้ม สีน้ำเงินไปจนกระทั่งแดงอมม่วงเลยครับผม โดยถ้าหากเป็นสีน้ำเงินพวกเราจะเรียกเขาว่า Dwarf Blue Curled Kale หรือ Vate Blue Curled Kale ถ้าหากเป็นสีแดง พวกเราจะเรียกว่า Scarlet Curly Kale ซึ่งเคลใบหยิกทั่วๆไปนี้จะมีเอกลักษณ์พิเศษเป็นมีกลิ่นแรงและก็รสมีความขมผสมหวานอยู่หน่อยๆเป็นพืชที่อยากแสงสว่างแดงจัด ถูกใจอากาศหนาว ปลูกได้ตลอดทั้งปี4

Red Kale

ประโยชน์ของ Red Kale

การนำเคลใบหยิกไปทำกับข้าวจำนวนมากมักใช้กระเทียมแล้วก็น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะกอกมาผัดด้วยกันเพื่อลดความขมของเคล หรือถ้าเกิดใครกันแน่ต้องการทานเป็นสลัดสามารถนำเคลใบหยิกไปจัดคู่กับผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆอย่างสตรอว์เบอร์รี่ แล้วก็ น้ำสลัดเลมอนทาฮินี(lemon-tahini) เพื่อปรับให้รสสมดุล รวมทั้งที่สำคัญเป็นเคลใบหยิกทัวไปสามารถเอามาปั่นเป็นสมูทตี้ หรือผสมคู่กับผลไม้อื่นเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ด้วยนะครับ

คลสายพันธุ์นี้เป็นเคลที่มีชื่อเรียกนานัปการสูงที่สุด บางบุคคลเรียกเคลไดโนเสาร์(Dinosaur Kale) ด้วยเหตุว่าเค้าหน้าดันไปเหมือนไดโนเสาร์ชนิดอะแพโทซอรัส(Apatosaurus)หรือไดโนเสาร์คอยาว ชื่ออื่นๆที่ชอบนิยมเรียกยกตัวอย่างเช่น Italian Kale, Tuscan Kale, flat back kale หรือ black Tuscan palm จุดแข็งของเคลสายพันธุ์นี้อยู่ตัวใบที่ยาว ไม่หยิกงอเสมือนสายพันธุ์ธรรมดา ใบมีสีเขียวปนสีน้ำเงินเข้ม เป็นของกินหลักของชาวอิตาเลี่ยนมานาน รสออกมันบดเพลิดเพลินครับผม

เคลไดโนเสาร์นี้เหมาะสมกับมื้อของกินในฤดูหนาวอย่างยิ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นการกินคู่กับซุปถั่วเลนทิลร้อนๆจะยิ่งเพิ่มความอร่อยเป็นสิบเท่าเลยนะครับ แต่ว่าหากเป็นเมืองไทยพวกเราผมว่าเอามาคลุกด้วยน้ำมันที่ทำจากมะกอกแล้วจับคู่กับมันฝรั่งหวานหรือพริกก็อร่อยไม่แพ้กัน แถมดีต่อร่างกายด้วยขอรับมั่นใจว่าผู้ที่ติดตาม Blog ของพวกเราเป็นกลุ่มของผู้คนสายสุขภาพ บริหารร่างกายเสมอๆ

แล้วก็ถูกใจการทานผัก คงรู้จัก “ผักเคล” (Kale) ราชาที่ผักใบเขียวกันดีอยู่แล้ว  Red Kale  ว่าเป็นผักที่มี Texture กรอบอร่อย คงทนสามารถเก็บไว้ได้นาน รวมทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกาย แม้กระนั้นรู้ไหมว่าเจ้าผักเคลเขียวๆที่พวกเรามองเห็นกันอย่างชินตาเนี่ยมีอยู่หลายอย่างร่วมกัน แล้วก็ ผักเคลแต่ละจำพวก ก็มีลักษณะบางประการซึ่งเหมาะสำหรับการนำไปเตรียมอาหารที่ต่างกันอีกด้วย

noBitter เชิญชวนตรวจมองว่า ผักเคลแต่ละจำพวก ใบหน้าเป็นเยี่ยงไร และก็เหมาะสมนำไปปรุงเป็นของกินแบบไหนถึงจะเยี่ยมที่สุด เพื่อที่คุณจะได้มีไอเดียสำหรับเพื่อการเลือกซื้อผักเคลอย่างถูกจำพวกตรงตามรายการอาหารที่ต้องการทานนะครับ ^0^ โดยผักเคลที่พวกเราจะมากล่าวถึงกันก็คือ เคลใบหยิก เคลไดโนเสาร์ เคลสีแดง รวมทั้งเบบี้เคลผักใบเขียวอย่างคะน้า เป็นผักที่อยู่ที่เมนูอาหารไทยหลายรายการอาหารร่วมกัน ทั้งคะน้ายังเป็นผักที่ได้ผลผลิตทุกฤดู กล่าวได้ว่าหาผลประโยชน์ของผักคะน้ามากินกันได้ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ว่าถ้าคนใดกันยังไม่เคยทราบประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากผักคะน้าว่ามีคุณประโยชน์ดียังไง วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำคุณประโยชน์ของคะน้า ผักใบเขียวเปี่ยมค่า มาบอกต่อแล้วจ้ะ

แล้วหลังจากนั้นผักเคลได้แพร่ระบาดออกไปทั่วยุโรปในศตวรรษที่ 13 และก็ยังเจอบันทึกของผู้ดีอังกฤษในศตวรรษที่ 14 เขียนถึงผักเคลจำพวกต่างๆทั้งเจอผักเคลบางสายพันธุ์มาจากประเทศรัสเซียด้วย ถัดมาผักเคลถูกนำเข้ามาในแคนาดาแล้วก็อเมริกาโดยพ่อค้าชาวรัสเซียในศตวรรษที่ 19 หลังจากนั้นผักเคลก็ถูกขยายไปสู่โครเอเชีย มีการปลูกผักเคลกันอปิ้งแพร่หลายในโครเอเชียเพราะเหตุว่าปลูกได้ไม่ยากแล้วก็ราคาถูก หลังจากนั้นมันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในฐานะผักที่กินได้ในตอนปี คริสต์ศักราช 1990 ด้วยเหตุว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง

 

Red Kale

Red Kale  คะน้า ผักใบเขียวเพื่อสุขภาพ

คะน้ามีชื่อภาษาอังกฤษว่า Chinese Kale คะน้าจัดเป็นพืชใบเขียวที่ใบมีสีเขียวจัด รวมทั้งเป็นผักที่กินได้ทั้งยังใบไปจนกระทั่งก้าน ผักคะน้ามีอยู่หลายประเภทร่วมกัน ทั้งยังคะน้าไทย คะน้าประเทศฮ่องกง ซึ่งขนาดต้นคะน้ารวมทั้งความกรอบ หวาน บางทีอาจแตกต่างนิดหน่อย แต่ว่าลักษณะและก็รสโดยรวมก็ยังคงเป็นผักคะน้า พืชในตะฉันลเดียวกันอยู่นั่นเองผักเคลเป็นผักที่มีวิตามินเอแล้วก็วิตามินซีสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ป้องกันเซลล์ภายในร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระอันเป็นสารที่ทำให้มีการเกิดการอักเสบภายในร่างกายรวมทั้งนำมาซึ่งปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆรวมทั้งช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของผิวไม่ให้กำเนิดริ้วรอยก่อนวัย

อุดมไปด้วยวิตามินหลายอย่างผักเคลเป็นผักที่มีวิตามินเอและก็วิตามินซีสูง Red Kale  ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ปกป้องรักษาเซลล์ภายในร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระอันเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบภายในร่างกายและก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆรวมทั้งช่วยชะลอความเสื่อมถอยของผิวไม่ให้กำเนิดริ้วรอยก่อนวัยเมื่อเทียบกับปริมาณร้อยละของจำนวนที่เสนอแนะต่อวัน (%DV หรือ Daily Value)

ผักเคลสด 1 ถ้วยมีวิตามินเอสูงถึง 206% และก็วิตามินซีสูง 134% ของจำนวนวิตามินซีที่ร่างกายปรารถนาใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจัดเป็นผักที่มีวิตามินซีสูโลภว่าผักหลายอย่าง ดังเช่น ปวยเล้งที่มีวิตามินซีน้อชูว่าผักเคลถึง 4.5 เท่า นอกเหนือจากนั้น ผักเคลสด 1 ถ้วยยังให้ให้วิตามินซีที่สูงกว่าส้ม 1 ผลอีกด้วย

เคลยังเป็นผักที่มีวิตามินเคสูง โดยผักเคล 1 ถ้วยมีวิตามินเคสูงถึง 684% ของจำนวนวิตามินเคที่ร่างกายอยากใน 24 ชั่วโมง ซึ่งวิตามินเคมีส่วนช่วยสำหรับในการแข็งของเลือดรวมทั้งช่วยสร้างเสริมความแข็งแรงของกระดูก ก็เลยบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงของโรคกระดูกเปราะได้ลดคอเลสเตอรอลรวมทั้งลดการเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
โดยธรรมดาแล้ว ตับจะผลิตกรดน้ำดี (Bile Acid) ออกมาเพื่อย่อยไขมันจากของกินที่พวกเรากิน เพื่อลำไส้เล็กซับไปสู่ร่างกายถัดไป ซึ่งผักเคลมีสารที่จับกับกรดน้ำดี (Bile Acid Sequestrants) ที่ช่วยคุ้มครองไม่ให้ร่างกายดูดซับคอเลสเตอรอลจากระบบทางเดินอาหารกลับไปสู่กระแสโลหิตอีกรอบ ก็เลยช่วยทำให้ระดับคอเลสเตอรอลภายในร่างกายลดน้อยลง รวมทั้งบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจตามมา

เคล เป็นเยี่ยมในผักใบเขียวจัดแล้วก็มีสีม่วงเข้มแซมอยู่บ้างในบางใบ แล้วก็ใครๆต่างก็บอกกันว่าเป็นผักใบเขียวที่มีรสชาติกรอบ อร่อย อุดมไปด้วยคุณค่าจำนวนมาก เอามาทำรายการอาหารผักเคลได้อีกนานัปการรายการ ด้วยเหตุดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวล่ำเวลา พวกเรามาทำความรู้จักผักเคลกันดีมากกว่าว่ามีคุณประโยชน์ต่อร่างกายด้านไหนบ้าง รวมทั้งรับประทานอย่างไรให้อร่อยไปกับทุกจานผักเคลมีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศเมดิเตอร์เรเนียนทิศตะวันออกแล้วก็ทวีปเอเชียไมเนอร์ ซึ่งได้รับการเพาะปลูกเพื่อเป็นของกินตั้งแต่ปี 2000 ก่อนช่วงคริสตศักราช ในศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราช คะน้าใบหยิกรวมทั้งคะน้าใบแบนถูกเจอในประเทศกรีซ ซึ่งชาวโรมันเรียกว่า ‘คะน้าซาเบลเลียน’ นับว่าเป็นบรรพบุรุษของคะน้ายุคใหม่

 

Red Kale

ข้อดีของไมโครกรีน

มีสารอาหารมากยิ่งกว่าผักประเภทเดียวกันที่โตเต็มกำลังแล้ว 4-40 เท่า ขึ้นกับจำพวกของผักมีทรงและก็สีสันสวยสดงดงามน่ากินใช้เวลาสำหรับเพื่อการปลูกเพียงแต่ 7-14 วัน ก็สามารถเก็บได้แล้ว ผักเคล ภาษาอังกฤษเป็นKale จัดเป็นผักในสกุล Brassicaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Brassica Oleracea เป็นผักในเชื้อสายเดียวกับกะหล่ำ บรอคอยกวัวลี รวมทั้งคะน้า ด้วยเหตุนั้นเว้นแต่ชื่อเคลแล้ว ในไทยยังเรียกผักเคลว่า คะน้าใบหยัก หรือคะน้าใบหยิก ด้วยนะคะ ด้วยเหตุว่าความที่เป็นผักใบเขียวจัด มีก้านที่แอบคล้ายกับคะน้า แตกต่างกันเพียงแค่รูปแบบของใบที่เคลจะหยักกว่ามาก

ดังนี้ ผักเคลก็จะมีอยู่หลายสายพันธุ์ Red Kale  แม้กระนั้นที่แพร่หลายในไทยจะเป็นผักเคลใบหยักสีเขียว ชนิด Curly Kale หรือ Scottish Kale ที่มีส่วนลำต้นเป็นก้านแข็ง ถ้าหากรับประทานสดรสจะติดขม นิยมนำไปปั่นน้ำสมูทตี้ รวมทั้งอีกสายพันธุ์เป็นผักเคลไดโนเสาร์ (Lacinato Dinosaur Kale) ที่นิยมเอามาทำสลัด เพราะว่ามีรสชาติหวานกว่าเคลใบหยักสีเขียวมาถึงในยุคนี้ “เคล” ถูกตั้งชื่อว่าเป็นราชินีที่ผักสีเขียวทั้งหมดทั้งสิ้น (Queen Of Greens)

และก็ได้รับการยินยอมรับว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดหรือของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้วก็มากมาย  ufac5  เมื่อเทียบกับผักจำพวกอื่นๆในจำนวนที่เสมอกันโดยผักเคลต้มสุก 1 ถ้วยหรือราวๆ 118 กรัม มีสารอาหารล้นหลาม เป็นต้นว่า โปรตีน, แคลเซียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก, วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค, วิตามินบี1 บี2 บี3, เส้นใย และก็ที่เด่นสุดๆเป็นมีสารลูทีนรวมทั้งซีแซนทีน ในจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ดูแลดวงตาได้อย่างยอดเยี่ยม

เชื่อว่าคนที่ติดตาม Blog ของเราเป็นกลุ่มคนสายสุขภาพ ออกกำลังกายเป็นประจำ และชอบการทานผัก คงจะรู้จัก “ผักเคล” (Kale) ราชาแห่งผักใบเขียวกันดีอยู่แล้ว ว่าเป็นผักที่มี Texture กรอบอร่อย ทนทานสามารถเก็บไว้ได้นาน และอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ทราบหรือไม่ว่าเจ้าผักเคลเขียว ๆ ที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตาเนี่ยมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน และ ผักเคลแต่ละชนิด ก็มีลักษณะบางประการซึ่งเหมาะสำหรับนำไปประกอบอาหารที่แตกต่างกันอีกด้วย